การจัดอบรมกิจกรรม 2.2 ในพื้นที่ทั้ง 7 แห่ง ครอบคลุมจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ และลำพูน มีผู้เข้าร่วมรวมกว่า 500 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก พร้อมด้วยผู้ดูแลในครอบครัวและอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่เข้ามาร่วมเรียนรู้ บรรยากาศในแต่ละพื้นที่สะท้อนถึง ความสนใจและความตื่นตัวของผู้สูงอายุ ที่ต้องการเรียนรู้วิธีดูแลสุขภาพของตนเองผ่านการออกกำลังกายที่ถูกต้องและปลอดภัย
การอบรมครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการสอนให้ผู้สูงอายุ “ทำท่าบริหาร” เท่านั้น แต่เป็นการสร้าง ความเข้าใจใหม่ ว่ากิจวัตรประจำวันธรรมดา ๆ เช่น การนั่ง การลุก การเดิน หรือการยกของ สามารถเชื่อมโยงเข้ากับแนวคิดการออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพได้ เมื่อผู้สูงอายุได้ลองทำท่าพื้นฐาน เช่น การยืดเหยียด ฝึกสมดุล หรือเสริมกล้ามเนื้อ แล้วมี ระบบ Motion Analysis และ AI Tips มาช่วยกำกับ ก็ทำให้เกิดความมั่นใจและความสนุกสนานมากขึ้น หลายคนสะท้อนว่า “ไม่เคยคิดว่าการออกกำลังกายจะง่ายและปลอดภัยขนาดนี้”
สิ่งสำคัญอีกประการคือการที่ เทคโนโลยีได้ถูกนำมาใช้ในระดับชุมชน ผู้สูงอายุสามารถเห็นท่าทางของตนเองผ่านระบบดิจิทัล เข้าใจได้ทันทีว่าทำถูกหรือผิด และได้รับคำแนะนำให้แก้ไขในเวลานั้น สิ่งนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้สูงอายุอยากกลับไปฝึกที่บ้าน และยังช่วยให้ผู้ดูแลหรือ อสม. มีความมั่นใจมากขึ้นในการให้คำแนะนำ
ในเชิงชุมชน การอบรมทำให้เกิด บรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกัน ผู้สูงอายุไม่ได้มาเพียงเพื่อฟังบรรยาย แต่ได้มีส่วนร่วม ทดลองจริง และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนรุ่นเดียวกัน การที่มีผู้ดูแลและ อสม. เข้าร่วมด้วยทำให้เกิดความเข้าใจร่วมกันว่าจะดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชนได้อย่างไร
ผลลัพธ์โดยรวมจากกิจกรรม 2.2 จึงไม่ใช่เพียงการอบรมความรู้ แต่คือการสร้าง ต้นทุนทางสังคมและจิตใจ ให้กับผู้สูงอายุและชุมชน ดังนี้:
ผู้สูงอายุมีความมั่นใจมากขึ้นในการออกกำลังกาย
ผู้ดูแลและ อสม. ได้รับทักษะใหม่ในการใช้เทคโนโลยีช่วยดูแล
ชุมชนเกิดการรวมตัวและมีแรงบันดาลใจในการดูแลสุขภาพร่วมกัน
เทศบาลและองค์กรท้องถิ่นเห็นคุณค่าของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกิจกรรมสุขภาพ
เมื่อมองในภาพกว้าง กิจกรรม 2.2 จึงเป็นมากกว่า “การอบรม” แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้สูงอายุได้สัมผัสเทคโนโลยีด้วยตนเอง และเห็นว่ามันสามารถช่วยชีวิตประจำวันได้จริง สิ่งนี้จะกลายเป็น รากฐานสำคัญ ที่นำไปสู่การดำเนินงานในกิจกรรมถัดไป ไม่ว่าจะเป็น 2.3 การถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ผู้ดูแล หรือ 3.1 การติดตามผลและการวัดผลลัพธ์ เพื่อยืนยันความยั่งยืนของนวัตกรรมในระยะยา
กล่าวได้ว่า กิจกรรม 2.2 เป็น ก้าวแรกที่สำคัญ ที่ทำให้ผู้สูงอายุไม่ใช่แค่ “ผู้รับการดูแล” แต่กลายเป็น ผู้มีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพของตนเอง โดยมีชุมชนและเทคโนโลยีคอยสนับสนุน
พื้นที่จังหวัดเชียงราย
พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
พื้นที่จังหวัดเชียงลำพูน