หลังจากที่โครงการ Care Move ได้พัฒนาหลักสูตรการอบรมต้นแบบ (กิจกรรม 2.1) เสร็จสิ้นแล้ว ก้าวต่อมาคือการนำหลักสูตรดังกล่าวไปจัดการฝึกอบรมจริงกับ กลุ่มผู้สูงอายุ ในพื้นที่นำร่อง กิจกรรม 2.2 จึงมุ่งเน้นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติจริงแก่ผู้สูงอายุ เพื่อให้สามารถดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันและออกกำลังกายได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเหมาะสมกับข้อจำกัดทางร่างกายของแต่ละคน
เนื้อหาของการอบรม
การอบรมสำหรับผู้สูงอายุครั้งนี้ครอบคลุมทั้ง กิจวัตรประจำวัน และ การออกกำลังกายพื้นฐาน โดยมีหัวข้อสำคัญ ได้แก่:
การดูแลกิจวัตรประจำวัน – วิธีลุก นั่ง เดิน และทำกิจกรรมทั่วไปโดยลดความเสี่ยงจากการหกล้ม
การออกกำลังกายเสริมสร้างความแข็งแรงและสมดุล – การยืดเหยียด การเสริมกำลังกล้ามเนื้อ และการฝึกการทรงตัว
การใช้เทคโนโลยีช่วยในการฝึก – ระบบ Motion Analysis ที่สามารถวิเคราะห์ท่าทางและให้คำแนะนำ เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุปรับท่าทางได้อย่างถูกต้อง
การอบรมในพื้นที่นำร่อง 7 แห่ง
เพื่อให้การอบรมเข้าถึงชุมชนจริง โครงการได้จัดอบรมย่อยใน 7 พื้นที่ ครอบคลุม 3 จังหวัด ได้แก่:
เชียงราย: อบต.ม่วงคำ, อบต.หัวง้ม, รพ.สต.แม่ข้าวต้ม
เชียงใหม่: เทศบาลตำบลเชิงดอย, เทศบาลตำบลน้ำแพร่พัฒนา
ลำพูน: เทศบาลเมืองลำพูน, เทศบาลตำบลมะเขือแจ้
แต่ละพื้นที่มีผู้เข้าร่วมอบรม เฉลี่ย 60–70 คน รวมแล้วกว่า 500 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก และบางส่วนคือผู้ดูแลในครอบครัวที่เข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน
ผลลัพธ์จากการอบรม
ผู้สูงอายุเข้าใจหลักการดูแลตนเองในชีวิตประจำวันและสามารถออกกำลังกายได้อย่างถูกวิธี
มีความมั่นใจมากขึ้นในการออกกำลังกาย ลดความกลัวการหกล้ม
ได้ทดลองใช้ระบบ Motion Analysis ซึ่งช่วยเสริมแรงจูงใจและทำให้การออกกำลังกายสนุกและปลอดภัย
ชุมชนมีบรรยากาศการเรียนรู้ร่วมกันและเริ่มสร้างกลุ่มผู้สูงอายุที่สามารถเป็นต้นแบบด้านสุขภาพ
กิจกรรม 2.2 ถือเป็นกิจกรรมที่นำผู้สูงอายุเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงในกระบวนการดูแลสุขภาพของตนเอง ผ่านทั้งความรู้พื้นฐานและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Motion Analysis สิ่งที่ได้ไม่ใช่เพียงทักษะการออกกำลังกายที่ถูกต้อง แต่คือการเสริมความมั่นใจและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในชุมชน