ที่มาและความจำเป็น
ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2583 คาดว่าจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุถึงร้อยละ 32 ของประชากรทั้งหมด ปัญหาสำคัญที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงนี้คือ ภาวะบกพร่องทางการเคลื่อนไหวและการหกล้ม ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของครอบครัวและประเทศ
ด้วยเหตุนี้ โครงการ Care Move จึงริเริ่มกิจกรรม 2.1 “พัฒนาสูตรฝึกอบรมแนวทางการดูแลกิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ” โดยใช้เทคโนโลยี Edge Computing ร่วมกับ Smart Motion Analysis (SMA) เพื่อสร้างต้นแบบหลักสูตรการอบรมที่ทันสมัย ปลอดภัย และเหมาะสมกับบริบทของผู้สูงอายุในแต่ละพื้นที่
วัตถุประสงค์หลัก
กิจกรรมนี้มีเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาหลักสูตรที่สามารถถ่ายทอดให้บุคลากรทางการแพทย์ นักวิชาการ ผู้ดูแล และอาสาสมัครในชุมชน สามารถนำไปใช้ต่อยอดได้จริง โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ได้แก่:
พัฒนาหลักสูตรอบรมที่ครอบคลุมการใช้ Edge Computing และ Smart Motion Analysis ในการดูแลและประเมินการออกกำลังกายของผู้สูงอายุ
สร้างแนวทางการประเมินและการดูแลกิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกายที่เหมาะสม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
พัฒนาองค์ความรู้และทักษะของบุคลากรด้านสุขภาพและผู้ดูแลให้สามารถใช้งานระบบได้อย่างถูกต้อง พร้อมถ่ายทอดสู่ผู้สูงอายุ
ส่งเสริมการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและป้องกันภาวะบกพร่องทางการเคลื่อนไหว
กระตุ้นให้ผู้สูงอายุตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ขั้นตอนการดำเนินงาน
การพัฒนาหลักสูตรดำเนินการอย่างเป็นระบบและครอบคลุมหลายมิติ ได้แก่:
การศึกษาข้อมูลทุติยภูมิ: ค้นคว้าและรวบรวมแนวทางอย่างน้อย 2 แนวทางที่เกี่ยวข้องกับการดูแลและออกกำลังกายผู้สูงอายุ
การสำรวจพื้นที่เป้าหมาย: คัดเลือกพื้นที่ใน 4 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน และพะเยา) โดยเฉลี่ยจังหวัดละ 10 พื้นที่ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์
การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ: รับฟังความคิดเห็นจากแพทย์ นักกายภาพบำบัด นักวิชาการ และผู้ดูแลในพื้นที่รวมกว่า 20 คน เพื่อสร้างความเข้าใจเชิงลึก
การวิเคราะห์และสรุปผล: ประมวลข้อมูลเพื่อจัดทำแนวทางการดูแลและพัฒนาหลักสูตรต้นแบบ
การทดสอบและปรับปรุงหลักสูตร: ผ่านการวิพากษ์โดยผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้หลักสูตรมีความสมบูรณ์และเหมาะสมกับการใช้งานจริง
การจัดทำคู่มือและสื่อการสอน: จัดทำคู่มือเป็นรูปเล่ม พร้อมสื่อการเรียนรู้ เช่น วิดีโอ ภาพประกอบ และสื่อออนไลน์
ผลผลิตและผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ผู้สูงอายุมีโอกาสได้รับการดูแลที่เหมาะสมและปลอดภัยมากขึ้น
บุคลากรและผู้ดูแลในพื้นที่มีทักษะในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อการดูแลสุขภาพ
ลดความเสี่ยงต่อการหกล้มและความพิการในผู้สูงอายุ
สร้างเครือข่ายและต้นแบบการดูแลที่สามารถขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศได้
ไฟล์เล่มหลักสูตรสำหรับดาวน์โหลด
โครงการได้จัดทำ คู่มือหลักสูตร “ผู้สูงอายุสุขภาพดี ชีวีมีสุข” เพื่อใช้เป็นสื่อประกอบการฝึกอบรมในกิจกรรม 2.1 โดยเนื้อหาภายในประกอบด้วยแนวทางการดูแลกิจวัตรประจำวัน การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ การใช้เครื่อง Smart Motion Analyzer (SMA) ในการประเมินท่าทาง และกิจกรรมฝึกปฏิบัติสำหรับผู้ดูแลและอาสาสมัครสาธารณสุข
เอกสารฉบับนี้ได้ผ่านการทบทวนและรับรองความถูกต้องโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู นักกายภาพบำบัด และนักวิชาการด้านสุขภาพชุมชน เพื่อให้สามารถนำไปใช้ได้จริงในระดับพื้นที่
สามารถดาวน์โหลดไฟล์หลักสูตรฉบับเต็มได้ที่
🔗 คลิกเพื่อดาวน์โหลด “คู่มือผู้สูงอายุสุขภาพดี ชีวีมีสุข” (PDF)
กิจกรรม 2.1 ไม่ได้มุ่งเพียง “การอบรม” แต่เป็นการสร้าง ต้นแบบหลักสูตรบูรณาการ ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้ทางการแพทย์กับเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และมีศักยภาพในการดูแลสุขภาพของตนเองอย่างยั่งยืน