หลังจากที่ผู้สูงอายุได้รับการอบรม (กิจกรรม 2.2) และผู้ดูแล/อสม. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี (กิจกรรม 2.3) แล้ว กิจกรรม 3.1 ถือเป็นก้าวสำคัญในการ “ปิดวงจร” ของการดำเนินงาน โดยมุ่งเน้นการ กลับไปติดตามผลในพื้นที่จริง เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้นวัตกรรม Smart Motion Analysis (SMA) และ Edge Computing รวมถึงฟังเสียงสะท้อนจากผู้สูงอายุและผู้ดูแลในชุมชน
กิจกรรมนี้ครอบคลุมพื้นที่นำร่องทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย (อบต.ม่วงคำ, อบต.หัวง้ม, รพ.สต.แม่ข้าวต้ม) จังหวัดเชียงใหม่ (เทศบาลตำบลเชิงดอย, เทศบาลตำบลน้ำแพร่พัฒนา) และจังหวัดลำพูน (เทศบาลเมืองลำพูน, รพ.สต.มะเขือแจ้) โดยแต่ละพื้นที่มีผู้เข้าร่วมเฉลี่ย 50 คน รวมทั้งหมดกว่า 350 คน การดำเนินงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักคือ
Focus Group: พื้นที่ละ 10 คน เพื่อเก็บความคิดเห็น ฟีดแบก และข้อเสนอแนะ
อบรมการใช้งานใหม่ + การตรวจวัดสมรรถภาพ (SPPB): พื้นที่ละ 40 คน เพื่อประเมินสมรรถภาพร่างกายและเสริมความเข้าใจในการใช้ระบบอีกครั้ง
เครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการติดตามได้แก่ Dashboard กลาง สำหรับบันทึกพฤติกรรมการออกกำลังกาย, AI Tips ที่ช่วยแจ้งเตือนเมื่อผู้สูงอายุทำท่าผิด, และการตรวจวัด Short Physical Performance Battery (SPPB) ที่วัดความสมดุล ความเร็วในการเดิน และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ผลการติดตามพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มี พัฒนาการเชิงบวก ทั้งในด้านสมรรถภาพร่างกายและความมั่นใจในการออกกำลังกาย ขณะที่ผู้ดูแลและ อสม. ยืนยันว่าระบบช่วยให้พวกเขาทำงานง่ายขึ้นและสามารถใช้ข้อมูลจริงมาประกอบการดูแลได้ดียิ่งขึ้น
สิ่งที่โดดเด่นคือ แต่ละพื้นที่มี แนวโน้มการต่อยอดที่แตกต่างกัน บางพื้นที่เสนอให้นำระบบไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเทศบาล บางพื้นที่อยากให้ขยายการใช้งานไปยังครัวเรือนอื่น หรือเชื่อมโยงเข้ากับนโยบายสุขภาพของจังหวัด เสียงสะท้อนเหล่านี้ทำให้โครงการมีข้อมูลเชิงประจักษ์และทิศทางชัดเจนสำหรับการพัฒนาระยะต่อไป
กิจกรรม 3.1 จึงไม่เพียงแต่เป็น “การติดตามผล” แต่คือการสร้างหลักฐานว่า นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นถูกนำไปใช้จริง และได้รับการยอมรับในระดับชุมชน การมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุ ผู้ดูแล และเครือข่ายใน 7 พื้นที่ ช่วยยืนยันว่าโครงการ Care Move กำลังเดินไปสู่เป้าหมายของการสร้าง ชุมชนสุขภาพดิจิทัลที่ยั่งยืน
พื้นที่จังหวัดเชียงราย
พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
พื้นที่จังหวัดเชียงลำพูน